รุ่งขึ้นเป็นวันที่ 10 ธันวาคม ยวงดิเอโกไปปรากฏตัวที่สำนักพระสังฆราชอีก เขาไปพบกับคนใช้ที่คอยขัดขวางเช่นเดิม แต่ที่สุดก็ได้พบกับพระสังฆราช การสนทนาครั้งนี้ได้ผลดีขึ้น พระสังฆราชเชื่อในความซื่อสัตย์ของชาวอินเดียนคนนี้ เพราะเหตุว่า เมื่อท่านบอกว่าให้ขอเครื่องหมายจากแม่พระเพื่อแสดงพระประสงค์ของพระนาง เขาดีใจมาก พระสังฆราชไม่ได้กำหนดว่าเป็นเครื่องหมายอะไร เมื่อเขากลับไป ท่านสังฆราชสั่งให้คนใช้ 2 คน สะกดรอยตามเขาไป คนใช้ทั้งสองก็ตามไป แต่เมื่อไปถึงภูเขาเตเปย้าก ชายอินเดียนนั้นก็หายไปจากสายตา เขาไม่ทราบว่าจะไปตามหาได้อย่างไร จึงกลับมาเรียนพระสังฆราชว่า ยวงเป็นคนหลอกลวงพระสังฆราชและศาสนา ที่จริงยวงไม่ทราบว่ามีคนสะกดรอยตามมา เขาเดินอย่างสบาย ขึ้นไปถึงยอดเขาเตเปย้าก ไปหาพระมารดา เล่าถึงการพบปะกับพระสังฆราชเป็นครั้งที่ 2 และพระสังฆราชต้องการเครื่องหมาย

พระนางพรหมจารีแสดงความพอพระทัย ตรัสว่า "รุ่งขึ้นลูกจงมาที่นี่เพื่อจะได้นำเครื่องหมายไปให้พระสังฆราช" ครั้งนี้ยวงดีใจมาก

เขากลับไปบ้าน พบยวง แบร์ดีโน ลุงของเขากำลังป่วยเป็นไข้ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงของตำบลนี้ การรักษาไม่ทำให้อาการดีขึ้น มีแต่ทรุดลง วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันที่ 11 ธันวาคม ยวงรีบเข้าไปในเมืองเพื่อตามหมอ ความเป็นห่วงลุงทำให้เขาลืมคำสัญญาที่ให้ไว้แก่พระนาง รุ่งขึ้นวันที่ 12 ลุงมีอาการหนัก เขาวิ่งไปที่วัดเพื่อจะไปตามพระสงฆ์ฟรังซิสกันให้มาโปรดศีลเจิมคนไข้ เมื่อเขาขึ้นมาถึงภูเขาที่แม่พระประจักษ์ เขาใจเต้นนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานนี้เขาผิดนัด เขารู้สึกเสียใจและเกรงว่าแม่พระจะตำหนิเขา แต่เวลาเดียวกันก็เป็นห่วงเรื่องการเชิญพระสงฆ์มาส่งศีลให้แก่ผู้ป่วย เขาตั้งใจจะเดินหลีกไปทางอื่นเพื่อจะได้ไม่พบ

แต่ในถนนที่ยวงตั้งใจจะไปนั้น เขาเห็นแสงสว่างและพบพระนางมารีอา พระนางถามเขาอย่างอ่อนหวานว่า "ลูกรักจะไปไหน" ยวงรู้สึกกลัวเพราะถูกจับได้ว่าหลีกเลี่ยง เขารีบกราบลงบนพื้นด้วยความอาย ทูลว่า "เมื่อคืนนี้สบายดีหรือ? ผมไม่ได้มาที่นี่เพราะลุงผมป่วยหนัก เวลานี้ผมจะรีบไปตามพระสงฆ์ เสร็จธุระนี้แล้วผมจะมาที่นี่ จะมารับเครื่องหมายเพื่อนำไปให้พระสังฆราช ที่ผมมิได้มาตามที่สัญญาก็เพราะเหตุนี้ พรุ่งนี้ผมจะมาแน่นอน"

พระพักตร์ พระมารดา แสดงว่าทรงสงสารในเหตุขัดข้องของยวง พระนางตรัสว่า

"ฟัง ลูกรัก ลูกไม่ต้องเป็นห่วงกังวลด้วยสิ่งใด ไม่ต้องกลัวการป่วยหรือความทุกข์
เราผู้เป็นมารดาของลูกอยู่ที่นี่มิใช่หรือ?
ลูกไม่ได้อยู่ภายใต้ความอารักขาคุ้มครองของแม่หรือ?
แม่มิได้เป็นผู้รับผิดชอบลูกหรือ?
ลูกยังต้องการอะไรอีก?
ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการป่วยของลุง เขาจะไม่ตาย รู้ไว้เถิดว่า เวลานี้เขาสบายดีแล้ว"

ยวงฟังคำบอกเล่านี้ด้วยความยินดีและสบายใจ เขาไม่คิดจะไปตามพระสงฆ์ เพราะเขาเชื่อวาจาของพระมารดา เขาตั้งใจจะไปหาพระสังฆราช ดังนั้นพระมารดาสั่งว่า "จงขึ้นไปยังยอดเขา แล้วเก็บดอกกุหลาบทั้งหมดใส่ในเสื้อคลุมแล้วกลับมาที่นี่ เราจะบอกว่าต้องทำอย่างไร"

ยวงดิเอโกเคารพเชื่อฟังทันทีโดยไม่คัดค้าน แม้ว่าคำสั่งนั้นจะแปลกสำหรับเขา เขาไม่รู้จักดอกไม้และเขารู้ดีกว่ายอดเขามีแต่หิน และเวลานี้เป็นฤดูหนาวด้วย เขาขึ้นไปที่ยอดเขาเตเปย้าก เห็นพุ่มดอกไม้งามมาก เป็นกุหลาบหอม เขาเก็บมามากที่สุดที่จะเก็บได้ แล้วกลับมาหาพระนาง พระนางประทับคอยเขาอยู่ที่ใต้ต้นไม้ พระมารดาหยิบช่อกุหลาบจัดลงในเสื้อคลุมของยวง แล้วบอกว่า "นี่คือเครื่องหมายที่ต้องนำไปให้ท่านสังฆราช เรียนท่านว่า เมื่อได้เห็น ดอกกุหลาบนี้แล้วให้ทำตามคำสั่ง และเจ้า ลูกรัก แม่ไว้ใจลูก อย่าให้ใครดูดอกกุหลาบนี้ตามทางที่พบ อย่าเปิดเสื้อคลุมให้ใครดูนอกจากเวลาอยู่ต่อหน้าท่านสังฆราช เล่าให้ท่านทราบถึงสิ่งสำคัญที่แม่ส่งมาเพื่อสร้างวัดให้แม่"

เมื่อได้ฟังคำสั่ง ยวงดีใจ เขาถือช่อกุหลาบซึ่งห่อในเสื้อคลุมรีบไปหาพระสังฆราช